จากประสบการณ์ช่วงชีวิตที่ผ่านมา
จะผ่านหูผ่านตาเวลามีคนบ่นเรื่องงานอยู่บ่อยๆ
บางคนบ่นมาก
บางคนบ่นน้อย
ซึ่งหลายคนบ่นๆ แล้วก็ออกจากงานเลย
บางคนบ่นอยู่นั่นแหละ แต่ก็ยังนั่งทำงานอยู่ที่เดิม
คนทั้ง 2 กลุ่มนี้ต่างก็มีปลายทางแตกต่างกันออกไปครับ
บางคนที่ลาออกไป ก็พบว่าที่ทำงานใหม่
บางทีก็ไม่ดีเท่ากับที่เดิม หรือแย่กว่าที่เดิม
แต่บางคนก็เจอที่ดีกว่าที่เดิม
ปัญหาของเราคือ แล้วจะตัดสินใจยังไงดีว่า
จะออก หรือไม่ออก
กระบวนการตัดสินใจเรื่องนี้นั้น ค่อนข้างยากครับ
บางคนก็แนะนำให้่ชั่งใจให้ดี
บางคนก็แนะนำวิธี “แรงดูด” – แรงดึงดูดใจจากที่ใหม่
ต้องมากกว่า “แรงผลัก” – แรงถีบไล่ไสส่งจากที่เก่า
แต่ผมมีวิธีการแบบของผม คือ
รู้จักตัวเองก่อน
รู้จักตัวเองก่อน หมายความว่า ให้สำรวจตัวเองก่อนว่า
ขณะนี้เราให้น้ำหนักกับการทำงานเกินช่วงอื่นๆของชีวิตหรือปล่าว
คนบางคนอาจจะบอกว่า เราทำงาน 8-10 ชม.
ซึ่งนั่นหมายถึง 1/3 ของชีวิต ดังนั้นเราควรทำงานที่มีความสุข
แต่ผมกลับคิดว่า เราทำงานแค่ 1/3 ในวัน ดังนั้นไม่ควรให้ความสนใจมันมากกว่าการนอน
หรือมากไปกว่ากิจกรรมอย่างอื่นจนเกินไป
เวลานอน ยังไม่ได้นอนหลับฝันดีทุกคืน
กินข้าว ยังไม่สามารถหาอะไรอร่อยกินได้ทุกมื้อ
แล้วทำไมต้องมากะเกณฑ์ว่า ทำงานต้องมีความสุขทุกวัน
อันนี้มันแปลกๆครับ
ดังนั้นต้องมารูกจักตัวเองก่อนว่า ความสุขของชีวิตเราหามาจากไหน
บางคนมาจากการได้ทำกิจกรรมที่อยากทำ
ได้ไปเที่ยวที่ที่อยากไป
ได้กินอาหารที่อยากลอง
ถ้ายังงั้นงานก็ไม่ใช่แหล่งความสุขของเราเลย
แต่ถ้าเรารู้สึกว่า แหล่งความสุขของเราคือการได้ทำงานที่สนุก ท้าทาย
อย่างนั้นก็แสดงว่า เราควรให้น้ำหนักกับงานมากกว่าอย่างอื่น
จากนั้นก็เข้าสู่ขั้นต่อมาคือ
แล้วงานมันทำลายความสุขเราหรือปล่าว
ไม่ว่างานมันจะสำคัญมากสำคัญน้อย
แต่สิ่งที่ต้องคิดคือ มันทำให้ชีวิตเราไม่มีความสุขไหม
คืองานมันห่วยจน กินข้าวก็ไม่อร่อย
นอนก็ฝันร้าย
ไปเที่ยวกับแฟนก็ยังหดหู่
ตื่นมาแล้วไม่อยากไปทำงานเลย
ต้องมานั่งถามตัวเองทุกเช้าว่า
“นี่ตู ออกไปทำเพื่ออะไรฟะ”
แต่ถ้ามันห่วยก็จริง แต่ชีวิตยังมีความสุขจากกิจกรรมอื่นๆได้อยู่
ก็แสดงว่า มันไม่ได้ทำอะไรชีวิตเรามากครับ
เพราะชีวิตมนุษย์เราก็ไม่ได้สมบูรณ์ซะทุกอย่างหรอก
แต่ถ้าคุณต้องการทุกอย่างในชีวิตสมบูรณ์พูนสุข
หรืองานมันทำลายทุกอย่างในชีวิตไม่เหลือหลอ
อย่างนี้ก็ต้องมาเข้า stage 3
ไม่ทำงานแล้วจะตายไหม
อันนี้คือหลักสูตรง่ายๆครับว่า
ถามตัวเองก่อนว่า ถ้าไม่ทำงานสัก 3-6 เดือน
แล้วชีวิตลำบากจนอยู่ไม่ได้ไหม
หรือถ้าเงินเดือนน้อยลงสัก 50% แล้วอยู่ได้ไหม
ถ้าบอกว่า อยู่ได้
ผมแนะนำเลยว่า ลาออกเลยครับ
ที่ถามแบบนี้เพราะ การย้ายงาน
มีความเสี่ยงที่เราจะเจองานห่วยกว่าเดิม หรือเจองานที่ไม่ชอบ
ดังนั้นการมีความมั่นใจรองรับว่า ไม่มีงานก็ยังพออยู่ได้
หรือสามารถลองทำงานที่เงินเดือนต่ำกว่าเดิมได้ โดยไม่เดือดร้อน
ผมแนะนำให้หางานใหม่ ครับ
“เพราะชีวิตมันสั้นเกินกว่าจะมาทนทำงานที่ไม่อยากทำทุกวัน”