วันนี้เป็นวันแรกในรอบหลายเดือนที่ได้อยู่บ้านเฉยๆทั้งวันครับ
เหตุมาจากวันนี้ผมไม่สบายท้องเสีย ซึ่งที่ผ่านมาถ้าไม่ได้ถึงตาย
ผมก็จะไปทำงานตามปกติ กินยาไปบ้าง ทนๆไปบ้าง
เพราะว่า อยู่บ้านเฉยๆมันเบื่อ ทำงานมันก็สนุกดี หัวสมองได้แล่น
แถมอยู่ที่ทำงาน เป็นอะไรขึ้นมา ไปหาหมอง่ายกว่าอยู่บ้านคนเดียวครับ
แต่วันนี้มันมีความคิดว่า ไอ้ไม่สบายแล้วไปทำงานมันก็ดีอยู่หรอก
แต่บางทีมันก็ไม่ได้งานเท่าไหร่นัก วันนี้เลยตัดสินใจลางานอยู่บ้านนี่ล่ะ
นาน นาน ที
วันนี้เลยน่าจะเป็นวันที่ 2 หรือ 3 ในรอบ 3 เดือน
ที่ได้อยู่บ้านทั้งวันตั้งแต่เช้ายันเย็น ซึ่งทำให้รู้ว่า
- หน้าบ้านไม่โดนแดดทั้งวัน แต่หลังบ้านโดนทั้งวันเลยครับ
- หลังบ้านร้อนมาก เอาว่ายืนอยู่ได้ไม่เกิน 1 นาที ตากผ้าเปียกๆ 30 นาทีแห้งสนิท
- เปิดหน้าต่างบ้านทั้งหลัง พบว่าอากาศถ่ายเทดี แต่ความชื้นยังสูงอยู่ นึกไม่ออกว่าทำยังไงดี
- บ้านมีคราบฝุ่นพอสมควร ต้องหาเวลามาเช็ดล้างหน่อย
- กระจกทุกบานฝุ่นเยอะมาก ต้องเช็ดทำความสะอาดได้แล้ว
- การรดน้ำต้นไม้ตอนสายๆ เป็นความสุขอย่างนึงของชีวิต
- หุงข้าวกินเองก็อร่อยดี
- ตอนเช้าจริงๆกินแค่โอวัลตินกับขนมปังสักก้อนก็เอาอยู่
- อยู่บ้านก็ทำงานได้พอๆกับอยู่ที่ทำงานเลย ติดแค่เรื่องปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
- พบว่าผมสามารถทำงานทั้งวันตั้งแต่ 8.00 – 18.00 โดยไม่วอกแวกไปดูทีวีได้
- ดังนั้นการทำงานที่บ้านในอนาคต ถือว่าเป็นไปได้
- กลิ่นดินเปียกน้ำนี่หอมมาก
- ไปเที่ยวก็สนุกดี แต่อยู่บ้านเฉยๆก็มีความสุขพอๆกันครับ
หวังว่าเดือนนี้ จะมีโอกาสอยู่กับ “บ้าน” ทั้งวันแบบนี้อีกโดยไม่ต้องลางานนะครับ
คนไม่ค่อยได้อยู่บ้าน จะชอบเวลาได้อยู่บ้านครับ
แต่คนที่ต้องอยู่แต่บ้าน ก็ชอบเวลาได้ออกไปนอกบ้าน
ทำนองนั้นครับ