เคืองครับ เคือง
ผมจะมีร้านขายกาแฟโบราณเจ้าประจำอยู่ครับ เป็นร้านเล็กๆอยู่หน้าตึกลูกค้า
เวลาผมไปอยู่ที่บริษัทลูกค้าก็มักจะเดินมาซื้อชาเนสทีของร้านนี้กินเป็นประจำ
ร้านนี้เป็นร้านรถเข็นแบบกาแฟโบราณ ขายของแบบมีน้ำใจน่าอุดหนุน ในสนนราคาแก้วละ 15 บาท
ซึ่งแถวๆนั้นจะมีอีกร้านนึงขาย 15 บาทเหมือนกัน อยู่ซอยถัดไปหน่อยนึงแต่ผมชอบกินร้านแรกมากกว่าด้วยความถูกชะตา
แต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วร้านที่อยู่ซอยถัดไปขึ้นราคาขายเป็นแก้วละ 18 บาท ทำเอาผมช็อคเทอราปี้ มาทีหนึ่ง เพราะไม่คิดว่าชาชงกับน้ำร้อนจะเอาปัจจัยอะไรมาขึ้นราคา 20%
แต่แล้ว… เมื่อวานนี้ร้านประจำของผมก็ขึ้นราคาตามไปด้วย ครับ… นรกมากครับ ชาเนสทีแก้วละ 18 บาท
ผมลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา คำนวณต้นทุนที่เพิ่มมาแล้ว ยังไงมันก็ไม่น่าจะถึง 3 บาท
เอาว่าชาเนสทีที่ผมกิน มันขายกันกระปุกละ 110 บาท ตีว่ากระปุกนึงชงได้ 30 แก้วเอ้า ตกต้นทุนแก้วละ 4 บาท
น้ำตาลกิโลละ 25 บาท ชงได้ 20 แก้วเอ้า ตกต้นทุนแก้วละ 1.25 บาท
ครีมเทียม + นมข้ม + นมพร่องมันเนย คิดต่อแก้วไม่น่าจะเกิน 4 บาท
ค่าแก้ส ค่าน้ำร้อน คิดให้แก้วละ 1 บาท
ต้นทุนมันแค่ 10 บาท อย่างมาก นี่ขาย 18 มันจะหน้าเลือดเกินไปมั้ยครับ
เทียบกับอีกร้านที่หน้า MRT ที่ผมไม่ค่อยชอบเพราะขายแพง แต่เค้าเป็นร้านที่ชงด้วยนมสด
เค้าขายแก้วเล็ก 15 บาท แก้วใหญ่ 20 บาท
รู้มั้ยครับเค้าขึ้นราคามาเป็นแก้วละกี่บาท
เค้าขึ้นราคาแก้วละ 1 บาท ครับ
ครับ… ชงนมสด ขึ้นแก้วละ 1 บาท อยู่ได้
ชงน้ำร้อน + นมข้น ขึ้นแก้วละ 3 บาท ถึงอยู่จะได้
ขึ้นราคาแบบนี้ อีกหน่อยก็ไม่มีคนซื้อ แล้วคุณก็เจ๊ง
แล้วก็จะมาบอกว่า เศรษฐกิจไม่ดี คนไม่ซื้อของ เลยเจ๊ง
ในกรณีแบบนี้ ถ้าเจ๊งก็ต้องบอกว่า…
สมควร และสมน้ำหน้าครับ