Year 2014 In Review

เคยตั้งใจมาหลายปีว่าจะเขียนเรื่องที่จำได้ของปีที่ผ่านมาไว้
แต่พอสิ้นปีที่ไรก็ขี้เกียจ แล้วก็อยากเขียนอะไรเยอะๆ
ซึ่งพออยากเขียนเยอะ มันก็ขี้เกียจเขียน พอมาปีนี้เลยเอาใหม่ดีกว่า
เขียนมันน้อยๆ เท่าที่เขียนแล้วไม่ขี้เกียจนี่ล่ะ

ปี 2014 มีเรื่องประทับใจหลายเรื่องในหลายกลุ่มเลยจับมาแยกๆเขียนเท่าที่นึกออกล่ะกัน

1. เพลงที่ชอบที่สุด: “เธอ” ของวง Cocktail

เป็นเพลงที่ชอบมาก ทั้งเมโลดี้ การเรียบเรียง เนื้อร้อง เสียงร้องของนักร้อง แล้วก็ดนตรีละเมียดละไมมาก
คิดว่าเพลงแนวนี้น่าจะเรียกว่าคลาสิคร็อค ก็น่าจะพอได้ เป็นเพลงที่ฟังแล้วฟังอีก ฟังแล้วอยากฟังอีก
และอยากไปฟังแบบเล่นสดมากครับ

2. ศิลปินที่ชอบที่สุด: Cocktail (ไทย) Taylor Swift (นอก)

คิดว่า 2 ศิลปินนี้เป็นปรากฏการณ์ของโลกดนตรีของผมในช่วงหลังๆ
Cocktail สำหรับผมคือวงดนตรีที่ดีที่สุดของไทยในเวลานี้แล้ว
หลังจากที่วงอย่าง Body Slam โดยกระแสติ่งและการยกย่องยกยอกันแบบเกินจริง
จนทุกวันนี้วงกำลังอยู่ในช่วงหาวิธีคลี่คลายแนวเพลงของตัวเอง ว่าจะไปแนวฟังยาก (ฮ)
หรือแนวเอาใจตลาดเหมือนเดิม

เพลงของ Cocktail ทั้งอัลบั้มฟังดี มีมาตรฐาน มีเนื้อหาทิศทางของตัวเอง
ซึ่งหวังว่าจะไม่หลงทางออกทะเลเหมือนรุ่นพี่ล่ะกัน (ตูจะได้มีวงดีๆให้ตามเสพย์มั่ง)

ส่วน Taylor Swift นี่ไม่ต้องอะไรมาก เธอคือปรากฏการณ์ของโลกดนตรีแท้ๆ
ทั้งฝีมือการแต่งเพลง การร้อง การแสดง รวมถึงความเป็นตัวเอง ความเป็นกันเองของน้อง
ทำให้มีแฟนล้มหลาม ยิ่งตอนเธอมาเป็นผู้ช่วยโค้ชใน The Voice US ซีซั่นล่าสุด
ยิ่งโชว์ว่าเออ… คุณน้องเธอเก่งจริง เจ๋งจริงแฮะ

3. ซีรีย์ที่ชอบที่สุด: Suits

จริงๆในปีนี้มีซีรีย์ที่ดีๆดังๆหลายเรื่อง แต่เผอิญเคเบิ้ล CTH ที่ที่บ้านติดนั้น อยู่ดีๆ เค้าก็อัพเกรดช่อง Universal เป็นแบบ HD ก็เลยทำให้ได้นั่งดูซีรีย์ช่องนี้จริงๆจังๆ แล้วก็มาพบว่า มันสนุกมากกก
เนื้อเรื่องคร่าวๆมันคือ เรื่องของสำนักงานทนายไฮโซที่มีกฏว่าจะรับแต่เด็กจบ Harvard เท่านั้น
แต่ตาพระเอกมันดันเก่ง จนเค้าแอบยัดเข้าไปทำงานที่นี่ได้ทั้งๆที่ไม่ได้จบ Harvard
แล้วเนื้อเรื่องมัน ซับซ้อน ดีมาก ทั้งการเจรจา ต่อรอง แก้เกมส์ วางแผน วางกลยุทธ์
เพราะเคสแต่ละเคสจะเป็นการฟ้องร้องกันระหว่าง Firm หรือคนกับ Firm ซึ่งหลักการของทนายคือ
ไม่มีใครอยากขึ้นศาลหรอก ไกล่เกลี่ยให้ยอมความนอกรอบได้เป็นจบ แต่จะทำยังไง ต่อรองยังไงให้ฝ่ายตรงข้ามยอมรับข้อเสนอที่เราอยากได้ ทำยังไงจะดึงพยานฝ่ายตรงข้ามให้มาอยู่กับเรา
แล้วตัวละครในเรื่องแต่ละคน มันอยู่กันด้วยผลประโยชน์อย่างเดียว ไอ้คำว่า “ศัตรูของศัตรูคือเพื่อน” นี่ใช้กันแหลก

สรุปเป็นซีรีย์ที่สนุกโคตรๆ ในรอบหลายปีที่ได้ดู ใครชอบการวางกลยุทธ์ การต่อรอง วางแผนตะล่อมคนเนี่ย ดูแล้วจะชอบมาก

4. หนังที่ชอบที่สุด: Edge of Tomorrow

ความสนุกของ Edge of Tomorrow คือความเป็น Loop นี่ล่ะ เป็นหนังที่นั่งดูกับภรรยาแบบไม่คาดหวังอะไร แต่พอดูแล้วแบบ เฮ้ย มันสนุกอ่ะ มันฉลาด มันงงดี ดูแล้วต้องแบบไปหาโหลดการ์ตูนมาอ่านต่อ แถมต้องไปคิดต่อว่าทำไม เออ ทำไมมันย้อนกลับมาตรงนั้นตรงนี้วะ แถมตัวนำคือนางเอกที่เท่ดี พระเอกก็ดูโง่ๆซึ่งทอม ครูซนี่เหมาะมาก

คือปีนี้มีหนังดีๆหลายเรื่อง (ยังไม่ได้ดู Interstella) แต่ถ้าบอกว่าให้เลือกย้อนกลับไปดูได้เรื่องเดียว จะเลือกดูเรื่องนี้ล่ะ
5. หนังสือที่ชอบ: พฤติกรรมพยากรณ์ (Predictability Irrational, Dan Ariely)

ตอนเรียน MBA ที่จุฬาฯ วิชาที่สนุกมากๆสำหรับตัวเองคือวิชา Consumer Behavior ซึ่งระหว่างที่อาจารย์สอน อาจารย์วิเลิศแกแนะนำหนังสือเล่มนี้ให้ไปอ่านเพิ่มเติมกัน ผมก็เลยไปหามาอ่าน แล้วก็พบว่า เออ.. มันเจ๋งดีว่ะ คือดร.แดนคนเขียน เป็นคนยิวที่อยู่ในเมกา แล้วเป็นอาจารย์ที่ MIT แต่ตอนเด็กชีวิตมีปัญหาโดนไฟครอก แล้วต้องอยู่โรงพยาบาลตั้งแต่เด็ก แล้วก็ธรรมดาของคนโดนไฟครอกคือแผลมันจะน่ากลัว ทำให้ไม่กล้าไปคุยกับคนอื่น เลยทำให้แกใช้สภาวะที่ต้องอยู่ตัวคนเดียวนี่ล่ะ คอยนั่งศึกษาพฤติกรรมคนอื่น แล้วหนังสือเล่มนี้ มันก็เอาพฤติกรรมของคนมาทดลองด้วยสมมติฐานทางเศรษฐศาสตร์ เพื่อหาเหตุผลของการทำอะไรที่เหมือนจะไม่มีเหตุผลของมนุษย์เรา ซึ่งคนเขียนแกค้นพบว่า จริงๆการกระทำที่เหมือนไม่มีเหตุผลนั้น มันมีเหตุผลนะ แล้วเราควบคุมมันได้ด้วย (ประมาณว่าเอามาหลอกใช้คนอื่นนั่นล่ะ)

ใครสนใจอ่าน review คุณ iYom ได้ เขียนรีวิวได้ดีจริงๆ กดที่นี่เบาๆ

จบแค่นี้ นึกได้ค่อยมาเขียนต่อ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *