ส่วนตัวผมเบื่อหน่ายพวกที่ด่า “นโยบายรถคันแรก” มากครับ
ไม่ได้เบื่อหน่ายเพราะเห็นด้วยกับนโยบายนี้นะครับ เพราะผมเองก็คิดว่า นโยบายนี้เป็นการใช้เงินแบบไม่มีประสิทธิภาพเท่าไหร่
แต่ที่เหมือนเบื่อคือคนที่ด่านโยบายนี้แบบตื้นเขิน เช่น
- รถติดมาก เพราะนโยบายนี้ล่ะ
- เอาเงินภาษีไปจ่ายโครงการนี้โดยเปล่าประโยชน์
- ทำไมไม่เอาเงินมาพัฒนาระบบขนส่งมวลชนแทนฟะ คนจะได้ไม่ต้องขับรถมาติดบนถนน
- ๙ล๙
คือเหตุผลการด่า มันงี่เง่ามาก คือคนด่าไม่ได้ศึกษาอะไรเลย แล้วก็เอามาด่าๆเอามัน ด้วยเหตุผลที่ข้างๆคูๆ แต่กูคิดว่าถูก
วันนี้อ่าน คม-ชัด-ลึก เจอคอลัมน์เขียนจั่วหัวว่า “รถติดโทษทุกคน ยกเว้นตัวเอง” ของคุณพิษช์ พงษ์สวัสดิ์ อ่านแล้วโดนมาก ขอยกมาเล็กน้อย
“ที่ผมว่าดัดจริต ก็เพราะว่า เป็นเรื่องยากมากครับที่จะพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเพื่อให้แก้ปัญหาจราจร
หึหึ… เขาพิสูจน์กันมามากแล้วครับ ว่าการแก้ปัญหาจราจรนั้นไม่ได้แก้ด้วยเทคโนโลยีล้วนๆ
แต่แก้ด้วยประชาธิปไตยและคำถามว่าใครมีสิทธิ์ไปก่อนบนถนนครับ
ดังนั้นหากเราไม่มีผังเมือง ที่ไม่ใช่คำลอยๆ ที่หมายถึงว่า ต้องมีให้โก้เข้าไว้ แต่เข้าใจว่าผังเมืองคือรัฐธรรมนูญท้องถิ่นที่จัดสรรอำนาจให้แต่ละคนบนพื้นที่ เราก็อย่ามาพูดเลยครับว่าจะมีระบบไฮเทคอะไรมากมาย
เพราะว่าถ้าจะแก้ปัญหาเรื่องเมือง แต่แก้ด้วยการสร้างรถไฟฟ้าไปเรื่อยๆ มันก็จะได้แต่หลอกคนให้ฝัน เพราะมันจะไกลออกไป แล้วก็จะทำให้คนที่มีที่ดินในเมืองอยู่แล้วรวยขึ้น”
ที่โดนสุดๆคืออันนี้
มาดูสิครับ วันนี้คนขับรถเมล์ คนขับแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง และคนขายของริมถนนในเมืองเขามีบ้านอยู่ที่ไหน และวันหนึ่งเขาต้องเดินทางเข้ามาให้บริการในเมืองแค่ไหน
ดังนั้น ไอ้วิธีคิดแต่ว่าจะทำโครงการขนาดใหญ่ในเมืองน่ะ คนที่จะได้ประโยชน์คือคนรวยและบริษัทห้างร้านที่จะได้ระบบขนส่งเป็นทางเลือก แต่คนจนก็จะถูกผลักออกจากเมืองและรอความหวัง และในระหว่างนั้น เขาก็อยากจะมีรถสักคัน
และที่สำคัญเขาก็ไม่ได้ได้มาฟรี เขาก็ต้องผ่อนนะครับ ไอ้ลดหย่อนภาษีรถคันแรกนี่มันถึงกับจะดิ้นตายเลยหรือครับ
ทีลดหย่อนภาษีทางอื่นๆ ที่ทำกันทุกปีเนี่ย ไม่เห็นพูดกันบ้าง
ต้องขอบันทึกไว้หน่อยครับ นานๆจะเห็นเครือเนชั่นเขียนอะไรที่เข้าท่าบ้าง
นโยบายนี้ไม่ใช่เรื่องของการใช้เงินนะครับ
เพราะเงินที่พูดถึงมันยังไม่มีไม่เกิด
แต่เป็นการดึงคนให้ใช้เงินจับจ่ายซื้อรถ แล้วได้คืนภาษีไปส่วนหนึ่ง (ก็อาจเป็นเงินที่เข้ามาหมุนเวียนอยู่ในระบบได้อีก)
ถ้าคนไม่คิดซื้อรถ เงินนี้ก็ไม่มีครับ ไม่ได้มีอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้น ไม่ถูก ถ้าใครบอกว่า เอาเงินก้อนนี้ไปทำอย่างอื่นดีกว่า (เช่น รถไฟฟ้าเป็นต้น และ รบ. ก็ต้องเตรียมเงินไว้ทำรถไฟฟ้าอยู่แล้วด้วย)
ผมอธิบายไม่เก่ง แต่ประเด็นเป็นอย่างนี้ครับ