ช่วงที่ผ่านมาชีวิตไม่ทำอะไรครับ คือตอนนี้ติดดูรายการ Master Chef จากเดือนก่อนที่ดู Master Chef: Australia พอดูจบตอนนี้ก็มาต่อกับ Master Chef: US
พอดูรายการแบบนี้ก็เลยอยากไปกินอาหาร Fusion ดูครับ แล้วพอรู้ว่าคุณตันเปิดร้านอาหารใหม่ เป็นแนว Japanese Food Fusion ที่มีราคาเพียง 499 บาท เลยตัดสินใจไปลองเลยดีกว่า
ร้าน Tokiya เป็นร้านอาหารของคุณตันอย่างที่บอก เปิดอยู่ชั้น 2 ห้างสยามดิสฯ ลงบันไดเลื่อนมาจะเจอเลย สัญลักษณ์ก็ชัดเจนมากครับว่ามีคุณตันอยู่หน้าร้าน
ร้านก็ตกแต่งออกแนวโมเดิร์นตามสมัยนิยมครับ ที่จะเน้นโทนเข้มและมืดๆหน่อย
เนื่องจากจองโต๊ะมาก่อน จึงได้ที่นั่งติดกระจกมองลงไปเห็นลาน Siam Dis อยู่ข้างล่างครับ
บรรยากาศร้านก็ดูดีตามมาตรฐานของคุณตัน
หลังจากพนักงานมาส่งที่โต๊ะเสร็จ จากนั้นก็จะมีพนักงานอีกคนมาแนะนำตัวว่าเป็นคนดูแลโต๊ะเราครับ อันนี้ต้องขอบอกว่าพนักงานบริการแบบดีมากจนเรารู้สึกตัวลอย (ฮ่าๆ) โดยน้องพนักงานจะแนะนำให้เรารู้ก่อนว่า ร้าน tokiya จะมีอาหารเป็นเซ็ตทั้งหมด 8 อย่าง โดยเริ่มจาก อาหารเรียกน้ำย่อย สลัด ซุป เมนูข้าว น้ำผลไม้ จานหลัก เครื่องดื่ม แล้วก็ปิดท้ายด้วยของหวาน โดยอาหารทั้งหมดจะใช้เวลาเสริฟจนจบคอร์สอยู่ที่ประมาณ 1.5-2 ชม.
เนื่องจากอาหารบางอย่างจะเลือกไม่ได้เพราะมีเมนูเดียว บางอย่างเลือกได้ และผมไปกับแฟนเลยพยายามเลือกอาหารที่ไม่ซ้ำกัน โดยผมเน้นเมนูเนื้อเป็นหลักเพราะทานเนื้อได้ ส่วนคุณแฟนทานเนื้อไม่ได้ ก็จะเน้นหมู ไก่ ปลาไป
หลังจากที่ทางร้านนำผ้าเย็นมาให้เช็ดมือเช็ดหน้า จากนั้นก็เริ่มที่จานแรกครับ
อาหารเรียกน้ำย่อย Tokiya Style Orinji
เมนูนี้ชื่อ Tokiya Style Orinji เป็นเห็ดออรินจิ ผัดกับซอสรสเข้มสักหน่อย มีกลิ่นเนยและพริกไทยดำโชยมาบางๆ ซึ่งการจัดวางทำออกมาได้ดี และรสชาติอร่อยมาก เจ้าเห็นออรินจินี้จะเสิร์ฟมาพร้อมกับหัวไชเท้าดองเพื่อตัดรสครับ แต่ตอนแรกผมไม่รู้นึกว่าเป็นหัวไชเท้าเฉยๆ เลยกินแต่เห็ดไปเรื่อยๆ แม้ว่ามันจะอร่อยมาก แต่การกินไปเยอะๆมันก็เลี่ยนได้ และเจ้าหัวไชเท้าดองนี่มันก็ช่วยตัดรสได้ดี ถ้าผมได้กินพร้อมกัน… แต่ดันมากินแยกซะนี่ แต่โดยรวมก็อร่อยมากครับ
สลัด Tomato Salad with Lobster’s Egg & Smoked Duck Salad
จานนี้เป็ฯจานที่สองครับ ซึ่งผมเองไม่ชอบทานมะเขื้อเทศอย่างแรง แต่ตัดสินใจเลือก Tomato Salad เพราะอยากเสี่ยงว่า ถ้าเชฟเจ๋งจริง ควรจะทำเมนูที่ผมไม่ชอบให้มันอร่อยได้ ส่วนคุณแฟนเลือก Smoked Duck Salad ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง
หลังจากพนักงานเอามาเสิร์ฟ ผมก็พินิจอยู่สักพักว่้าจะกินยังไง เพราะมะเขื้อเทศลูกมันใหญ่อ่ะ สุดท้ายก็ตัดสินใจผ่าครึ่งและชิม… พบว่า… อร่อยชิบเป๋งครับ มะเขือเทศฉ่ำและหวานมาก เข้ากับน้ำสลัดข้างในที่มีหัวไชเท้า ผักเครื่องเคียงและไข่กุ้งเล็กๆให้มีรสสัมผัสที่ลิ้น เอาว่าอร่อยและผมชอบมากกก
ถัดมาเป็นสลัดเนื้อเป็ดรมควันของคุณแฟนที่เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำสลัดงาแบบญี่ปุ่นและกะหล่ำฝอย ซึ่งคุณเธอไม่ชอบกะหล่ำฝอยอยู่แล้ว แต่ก็ยังบอกว่าอร่อยนะ ผมชิมแล้วก็อร่อยดีชอบเหมือนกัน แต่ชอบสลัดมะเขื้อเทศไข่กุ้งมังกรมากกว่า
แต่สรุปแล้ว สองจานนี้อร่อย.. มาก
ซุป Tokiya Beef Soup & Lobster Bisque
เมนูถัดมาเป็นเมนูซุปครับ ผมสั่งซุปเนื้อวัว ส่วนแฟนสั่งซุปกุ้งมังกร เหตุที่สั่งสองอันนี้ เพราะอันที่เหลือคือ ซุปต้มโคล้ง และซุปมิโสะ ซึ่งไอ้ต้มโคล้งนึกไม่ออกว่ามันอร่อยยังไง ส่วนมิโสะก็กินบ่อยแล้วเลยตัดสินใจเอา 2 อย่างนี่ล่ะ
ซึ่งซุปเนื้อ จะเป็นเนื้อตุ๋นมาพร้อมเยื่อไฝ่ในถ้วยกลมสไตล์ญี่ปุ่น มีรสชาตินุ่มของเนื้อที่ตุ๋นมาอย่างดี และอร่อยมากครับ จนผมเผลอซดน้ำซุปไปจนหมดเลย T_T ทำให้มีปัญหาว่าหลังๆอิ่มมาก ฮ่าๆ
เนื้อที่ตุ๋นก็นุ่มกำลังดีครับ อร่อยสมศักดิ์ศรีเนื้อตุ๋น… แต่เมนูนี้พูดตามตรงว่าธรรมดา ไม่น่าจะเรียกว่า fusion อะไรได้เลยครับ แต่ก็อร่อยนะ
ส่วนซุปกุ้งมังกรของแฟน รสชาติออกสไตล์ตะวันตกที่มีความหอมมันชัดเจน แต่มีข้อเสียคือ กินนานๆแล้วเลี่ยนครับ แฟนผมกินไม่หมดอ่ะ
สำหรับเมนูซุป ถ้าใครจะไปทาน คิดว่าเอาแค่ชิมรสก็พอนะครับ ไม่ต้องซํดจนหมด ไม่งั้นจะทานเมนูท้ายๆไม่ไหว มันอิ่มมากกก
ข้าว Yagi-Onigiri & Aromatic Rice
เมนูถัดมาเป็นเมนูข้าวครับ ซึ่งมีสองอย่างให้เลือก อย่างแรกเป็นข้าวทอด อีกอย่างคือข้าวปลาป่นสไตล์ญี่ปุ่น
พอผ่าครึ่งออกมาดูจะเห็นไส้ในแบบนี้ครับ
มีข้าวแล้วก็กุ้งอยู่ข้างใน กินกับซอสมายองเนสที่ราดมาก็อร่อยดี แต่รสชาติมันเหมือนกินโอโคโนมิยากิเลยครับ คือซอสรสชาติเหมือนมาก แต่ก็อร่อยนะครับ แต่รสของมันทำให้เรารู้สึกถึงเวลากินโอโคโนมิยากิไปหน่อย
อีกจานเป็นข้าวปลาป่นของคุณแฟนครับ จานนี้เนื่องจากผมไม่ชอบปลาป่นไม่ชอบกลิ่นของมัน เลยไม่สามารถตัดสินรสชาติแบบไม่อคติได้ แต่ก็กินแล้วอร่อยดีนะ
น้ำผลไม้
น้ำผลไม้จะเสริฟพร้อมกับเมนูข้าวครับ นัยว่าเพื่อให้กินล้างปากก่อนเข้าสู่จานหลัก ก็ประมาณบลูเบอรรี่ผสมน้ำองุ่นครับ อันนี้ไม่มีอะไรพิเศษสำหรับผม ก็…น้ำผลไม้อ่ะ
Main Course Tokiya Beef Steak & Combi Fish and Grilled Chicken
มาถึงจานหลักครับ จานหลักของที่นี่จะเป็นเสต็ก ซึ่งมีให้เลือกอยู่ 4 อย่างคือ เนื้อ หมู ปลา ไก่ ซึ่งเนื้อวัวเนี่ย ทางร้านจะบอกเลยว่าเป็นเนื้อวัวออสเตรเลียที่นุ่มมาก ว่างั้น แน่นอนว่าผมเลือกเนื้อวัว ส่วนแฟนเลือกปลากับไก่
แล้วเสต็กก็มาและจานใหญ่มาก ก่อนที่จะมาเสิร์ฟพนักงานจะมาแนะนำก่อนว่าเนื้อจะออกแบบ medium rare ให้ทำใจก่อน แต่เผอิญผมชอบกินแบบไม่สุกมากอยู่แล้ว เลยรับได้สบายๆ ซึ่งขอบอกว่าเนื้อชิ้นใหญ่มาก ประมาณชิ้นล่ะฝ่ามือ ใหญ่ เยอะ แต่ไม่นุ่มมากอย่างที่คิด ยังมีส่วนเอ็นที่ติดมาอยู่ และที่ร้ายคือ เนื้อสองชิ้นสุกไม่เท่ากัน
ใหญ่ไม่ใหญ่ ให้ดูเทียบกับมือพนักงานเสิร์ฟ
ชิ้นนี้ medium พอดี แต่อีกชิ้นสุกไปจนสุกพอดี ซึ่งคิดว่าน่าจะอบนานไปหน่อย แต่ทั้งสองชิ้นอร่อยดี
ส่วนของคุณแฟนเป็นปลากับไก่ครับ ซึ่งทำได้สุกพอดีและอร่อยดี แต่มาถึงตอนนี้ แฟนผมทานไม่ไหวแล้ว เพราะอิ่มเหลือเกิน เลยทำการร้องขอแบบที่ไม่คิดว่าร้านจะทำให้คือขอห่อกลับบ้าน แต่พนักงานก็รับไปห่อให้แบบที่ทำให้ทราบว่ามีบริการห้อกลับบ้านให้อยู่แล้ว
T_T หลอกผมให้พยายามนั่งกินให้หมดอยู่นาน
เครื่องดื่ม Strawberry Soda
เครื่องดื่มที่เสิร์ฟมาพร้อมกับสเต็กคือสตรอเบอรี่โซดาครับ อันนี้ผมไม่ชอบอ่ะครับ มันธรรมดาไป เป็นอย่างเดียวที่ไม่ชอบในเมนูทั้งหมด
ของหวาน Gelato Cheesecake & Milk Panna Cotta
จานสุดท้ายก่อนจาก เป็นของหวานครับ ของผมเองเป็น MIlk Panna Cotta ส่วนของแฟนเป็น Gelato Cheesecake
เจ้า Milk Panna Cotta จริงๆแล้วก็คือพุดดิ้งนมสดถั่วแดง ราดซอสชาเขียวเข้มข้นนั่นเอง พุดดิ้งนมอร่อยและหยุ่นลิ้นดีมาก กินกับถั่วแดงก็เข้ากันได้ดี แต่ซอสชาเขียวผมว่าไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ครับ แต่โดยรวมก็อร่อยมาก โดนใจผมเอง
ให้ดูชัดๆว่ามันนุ่มจริงๆ
ส่วนอีกอันเป็นของคุณแฟนครับ ข้างบนเป็นไอศครีมเจลลาโต ส่วนชั้นล่างเป็นไอศครีมชีสเค้ก เสิร์ฟมาบนจานที่แช่เย็นมาเลย เพื่อรักษาอุณหภูมิไอศครีม
ไอ้เจลาโตข้างบนรสชาติแปลกๆ แต่ชิสเค้กคุณแฟนบอกชอบมากกกกก
สรุป
หลังจากทานครบ 8 อย่างแล้ว ผมขอบอกว่ามันเป็นอะไรที่คุ้มค่าเงินมา เพราะกับเงินแค่ 499 บาทแบบไม่มีอะไรหมกเม็ดบวกเพิ่ม รสชาติที่ดี วัสถุดิบสดและใหม่ พนักงานบริการโคตรเทพแบบที่เรียกว่าแบบจะอุ้มเรามากิน แล้วก็เทคแคร์ดีแบบเวอร์โคตรๆ มากินแล้วประนึงเป็นญาติเจ้าของร้าน (พนักงานส่วนใหญ่หน้าตาดีด้วยครับ อันนี้สังเกตเอง)
แต่ข้อเสียสำคัญคือ ถึงมันจะอร่อยขนาดไหน แต่มันก็เมนูเดิมๆครับมาเป็นชุดซึ่งหลายอย่างเราเลือกไม่ได้ ทำให้อาจจะสร้างแรงจูงใจให้มันกินซ้ำได้ยากกว่าร้านอาหารแบบอื่น แต่มันอร่อยๆจริงๆนะครับ
สรุปคือเป็นร้านที่ชีวิตนึงควรมากินครับ
ปล.ห่อกลับบ้านได้ด้วยนะเธอว์
ที่คนไทยเรียกๆ กันว่าเห็น "ออรินจิ" จริงๆ มันต้องเขียนว่า E-rin-gi อ่านว่า เอ-ริง-หงิ (หรือ เอ-ริง-กิ) นะครับ
@Oakyman
ขอบคุณครับ
จริงบ้านเมืองเราเป้นชาติที่ออกเสียงตามสบายปากอยู่แล้วครับ จริงๆผมอยากเขียนไปว่าเห็ดนางรมหลวง ซะด้วยซ้ำ แต่กลัวดูไม่ญี่ปุ่น ฮ่าๆ