พูดก็พูดเถอะว่า การย้ายทีมของเฟอร์นานโด ตอร์เรส เป็นการย้ายทีมที่ผมไม่ค่อยรู้สึกรู้สาอะไรนัก
ไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนตอนทีมได้บัลลัคมาฟรีๆ หรือตอนได้เอสเซียง ดร็อกบา
การได้ตอร์เรสมานั้น อารมณ์ผมไม่ต่างกับตอนได้เชฟเชนโก้ แต่ผมก็ไม่ได้คิดว่าตอร์เรสจะประสบเคราะห์กรรมเหมือนเชฟเชนโก้นะ
เพราะตอน “เชฟ” นั้น เฮียมูแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่อยากได้ แต่เสี่ยแกอยากมี แกเลยเอาเงินไปทุ่มซื้อมาเอง แล้วบังคับให้เอาลงสนาม จนเป็นมูลเหตุแห่งความไม่ลงรอยกันระหว่างเสี่ยกับมู จนสุดท้ายมูก็ต้องแยกทางไป และทำให้เสี่ยเข้าใจดีว่าโค้ชดีๆไม่ได้หาได้ง่าย และการล้วงลูกของประธาน มันมีแต่ทำให้ทีมเลวลง และเสี่ยก็ต้องเปลี่ยนโค้ชอีก 4 คน ค่อยจะมาเจอคนที่ใช่อีกที
ดังนั้นดีลนี้มันจึงเปลี่ยนไป เพราะอันเช่บอกเองว่า การตกลงซื้อตัวตอร์เรสนั้น เป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างสโมสรแต่ตัวอันเช่เอง ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าการมาของตอร์เรสจะเป็นการยกระดับทีมขึ้น ซึ่งอันนี้ก็ไม่ต่างจากที่ผมเคยวิเคราะห์ว่า เชลซีต้องการกองหน้า 1 ตัวและกองหลัง 1 ตัวที่ใช้งานได้เลย และอายุไม่มากในช่วงเปิดตลาดเดือนมกราคม และก็ได้อย่างที่คาดการณ์ไว้จริงๆ
เหตุที่เชลซีต้องยอมกระโจนเข้าตลาดอีกครั้งหลังจากที่ว่างเว้นมาหลายปี ก็เพราะว่าทีมไม่ได้มีการเตรียมผู้เล่นไว้รองรับการถ่ายเลือดแบบค่อยเป็นค่อยไป พอถ่ายทีเต็มๆแบบนี้ ทีมเลยเป๋เพราะเด็กๆยังกระดูกไม่แข็งพอที่จะรับภาระได้ และในฐานะแบรนด์ “เชลซี” ทีมจึงไม่สามารถยอมให้อันดับต่ำกว่าอันดับ 4 ไปได้ และผมเชื่อว่า แม้แต่อันดับ 4 ก็เป็นอันดับที่ทั้งบอร์ดบริหารและเสี่ยหมี “รับไม่ได้” เสี่ยจึงยอมอีกครั้งที่จะควักเช็คออกมาเซ็นต์เพื่อสนับสนุนอันเช่
ต้องบอกว่าอันเช่เป็นโค้ชที่โชคดีนะครับ
เพราะเค้าเข้ามาในตอนที่เสี่ยมีภูมิความรู้เรื่องการจัดการลูกหนังดีระดับหนึ่งแล้ว จากการไล่โค้ชออกมา 4-5 คน ได้ทำให้เสี่ยรู้ว่าการหาโค้ชสักคนที่ครบเครื่องทั้งการเป็นโค้ชและการบริหารทีมมันยากจริงๆ และก็ต้องชมอันเชล็อตติด้วยว่าเป็นโค้ชที่ “เป็น” เรื่องการบริหาร เพราะการตัดสินใจเรื่องการบริหารทีมนั้น อันเช่ปรึกษาและขอความเห็นบอร์ดบริการและเสี่ยตลอด และก่อนตัดสินใจทำอะไรก็มีการอธิบายเหตุผลและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเสมอ
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมอันเช่ไม่โดนปลดแม้ทำทีมออกทะเลไปสิบนัด ซึ่งถ้าเป็นเสี่ยเมื่อหลายปีก่อน อันเช่ได้รับซองไปแล้ว หรือถ้าไม่ใช่การพูดคุยกันไว้ก่อนว่าปีนี้จะดันเด็ก จะต้องโละบัลลัค เดโก้ โจ โคล บัลเลตติ คาร์วัลโญ่ แล้วทีมมีโอกาสเป๋ ผมเชื่อว่า ตอนนี้ทีมคงได้ผู้จัดการทีมคนใหม่มาแล้ว แล้วทีมก็คงต้องมานั่งนับหนึ่งกันใหม่
ผมว่าปีหลังๆมาเนี่ย เชลซีตัดสินใจได้ฉลาดขึ้นในการเลือกซื้อนักเตะและออกข่าวน้อยมาก ทำให้ทีมได้นักเตะในราคาไม่แพงนัก เอาว่าเป็นเพราะ “โง่” เลยโดนปั่นราคามาเยอะ ค่อยมาฉลาดตอนหลังๆ
ถ้าเทียบกับเศรษฐีใหม่อย่าง แมนฯซิตี้ หรือที่กำลังเริ่มหัดใช้เงินแบบลิเวอร์พูล จริงๆไม่อยากแขวะลิเวอร์พูลมากนัก แต่ไม่รู้มันจะอะไรนักหนากับการที่นักเตะคนเดียวย้ายออกจากทีมแล้วแฟนบอลฟูมฟายจะเป็นจะตาย สื่อก็ขายข่าวกันสนุก
ผมว่านักเตะที่มาลิเวอร์พูลทุกวันนี้ ก็มาเพราะรักในทีมส่วนหนึ่งล่ะครับ แต่ความรักอย่างเดียวมันกินแทนข้าวไม่ได้ นักกีฬาก็คนนะ ใครๆก็อยากประบความสำเร็จกันทั้งนั้น ตลกดีที่มีแฟนบอลรับไม่ได้ถึงขั้นเรียกนักเตะว่า “จูดาส” หรือถึงขั้นเผาเสื้อกันเลย แล้วบอร์ดบริหารยังบ้องตื้นถึงขั้นเอาเงิน 35 ล้านไปประเคนเพื่อแลกนักเตะที่เจ็บอยู่และยังไม่ได้พิสูจนืตัวเองเท่าไหร่ เพียงเพื่อต้องการเอาใจแฟนๆ ทั้งๆที่รู้ว่าถ้าไปซื้อตอนปิดฤดูกลายในอีก 4-5 เดือนข้างหน้า ราคาอาจจะแค่ 20 ล้านเท่านั้น
และมันก็โคตรดราม่าเลยที่วันนี้เชลซีกับลิเวอร์พูลต้องมาเจอกันอีก เรียกว่าพรุ่งนี้มีเรื่องคุยกันสนุกปากแน่นอน
แต่สำหรับผม ไม่ว่าวันนี้เชลซีจะแพ้หรือชนะ ผมก็เชื่อว่าเชลซีกำลังไปในทิศทางที่ถูกต้องและควรทำมาหลายปีแล้ว
ปล. แต่อย่าแพ้เลยว่ะ ฮ่าๆ