ช่วงเดือนกุมภาฯเมื่อต้นปี ได้พาที่บ้านไปเที่ยวเชียงใหม่กัน ซึ่งปกติเราจะพาที่บ้านไปเที่ยวบ้าง หลักๆคือประมาณสองปีครั้ง
คือเป็นการไปเที่ยวแบบเป็นทัวริสต์จริงๆ แบบนั่งเครื่องบิน เช่ารถขับ นอนโรงแรม ไปเดินเที่ยวที่ที่สมาชิกในกลุ่มไม่เคยไป โดยหลักๆก็คือที่ที่ พ่อกับแม่ไม่เคยไป อย่างรอบนี้ พาพ่อกับแม่เรา และแม่ของแฟนไปด้วยกัน รวมกันทั้งหมด 5 ชีวิต
ผู้ใหญ่ทั้งสามคนเคยมาเชียงใหม่กันอยู่แล้วคนละครั้งสองครั้ง แต่ว่าแต่ละครั้งเป็นการมาทำธุระแล้วก็แซมการเที่ยวบ้างแบบชะโงกทัวร์ (พ่อแม่เราเคยมาส่งเรียนที่ม.แม่โจ้ ส่วนแม่แฟนเคยมารับปริญญาแฟนกับน้องชายแฟน) ดังนั้นการมาครั้งนี้จึงเป็นการมาเที่ยวจริงๆจังๆแบบครั้งแรก โดยลูกเป็นคนจ่ายเงิน พ่อแม่ กินใช้อย่างเดียว ไม่ต้องเครียด ให้ลูกเครียดแทน ฮ่าๆ
ปกติเวลาไปเที่ยว เราจะคิดแบบนี้อยู่แล้วเวลาเจอที่สวยๆ อาหารอร่อย หรือบรรยากาศดีๆ ว่าอยากพาพ่อกับแม่มาจัง หรืออยากพาภรรยามาบ้าง ถ้าคิดว่าภรรยาน่าจะชอบอะไรแบบนี้ ดังนั้นการได้พาคนที่เราอยากพามา เพื่อได้มาเจอบรรยากาศที่เราต้องการให้เค้าเจอ แล้วเค้าประทับใจด้วย จึงเป็นความฟิน (แปลว่า อิ่มเอมใจ – เผื่ออนาคตลูกหลานมาอ่านเจอแล้วไม่เข้าใจศัพท์แสงสมัยนี้) เป็นอย่างมาก
รอบนี้เราพาพ่อกับแม่ไปกินข้าวอีร้านต๋อง โต๊ะเต็ม ที่เราก็ไม่เคยไปกิน เพราะมาทีไรโต๊ะก็เต็มตลอด เลยคิดว่ามันต้องอร่อย แต่มันดันโคตรไม่อร่อย (เราคิดเองว่ามันทำอาหารเหนือไม่เป็นด้วยซ้ำ) ซึ่งเซงมาก แล้วก็พาพ่อแม่ไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ เข้าชมพระตำหนักภูพิงศ์ฯ ตอนเย็นมากินข้าวร้าน ครัวม่วนใจ๋ ที่ไม่เคยกินเหมือนกัน แต่อันนี้โคตรอร่อย
ตอนเช้าอีกวันมากินโจ๊กร้านดังประจำจังหวัด แล้วก็ขับรถตียาวไปขึ้นดอยอินทนนท์ ชมพระธาตุ นอนที่โครงการหลวง แล้วก็ตื่นเช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและเดินป่าที่ดอยอินทนนท์ ค่อยกลับกรุงเทพฯ
เป็น 3 วันที่สนุก มีความสุข และอยากไปอีกบ่อยๆ