เมื่อ 6-7 ปีก่อนเพื่อนๆถามผมว่า
“ทำไมต้องใช้ AIS ทั้งๆที่ค่าโทรก็แพงแสนแพง”
วันนั้นผมตอบเพื่อนไปว่า
“เพราะผมต้องมั่นใจว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถรับโทรศัพท์ได้ ซึ่ง DTAC ทำไม่ได้”
แต่ผมเข้าใจดีนะครับว่า ถ้าอยู่ในเมือง ในกรุงเทพฯ เจ้าไหนๆมันก็ไม่ค่อยต่างกันหรอก
นั่นเป็นเรื่องจริงเมื่อ 6-7 ปีก่อน จากนั้น
ด้วยการทำตลาดโดยเน้นภาพ “ใจดี” “ไม่มีเรื่องไหนเล็กสำหรับเรา”
ทำให้ผมแอบนิยม DTAC อยู่ในใจ ยิ่งได้ไปนั่นทำงานที่ตึกชัยอยู่ 18 เดือน
ยิ่งชอบวัฒณธรรมองค์กรที่เน้นความ “สนุก” ของที่นี่มาก
เมื่อเกิดสงครามค่าโทร 25 สต. ที่ทำให้การโทรข้ามค่ายช่วงหลัง 6 โมงเย็นเป็นอัมพาต
ซึ่งคนรอบข้างผมเกือบทั้งหมดใช้ DTAC ทำให้่การโทรจาก AIS ไปหาชาวบ้านนั้นอยากยิ่ง
ตอนนั้นเข้าใจคำว่ามีมือถือเหมือนมี “สาก” ดีมาก
และด้วยความอยากใช้ EDGE เนื่องจากที่หอไม่มีเนทใช้ (WiFi ยังไม่มา)
ผมเลยตัดใจยอมย้ายจาก AIS มาซบอก DTAC โดยที่ยอมถือเบอร์ AIS ไว้ปล่าวๆถึง 1 ปี
แล้วก็พบสัจจธรรมว่า เออ… เบอร์ DTAC มันก็ใช้ได้เนาะ โดยหลงลืมไปว่า เพราะผมอยู่ในเมืองใหญ่
แต่แล้ว… เมื่อปลายปีที่แล้ว พอผมซื้อบ้านและย้ายบ้านมาอยู่ “บ้านใหม่” ผมพบว่า
สัญญาณมือถือที่บ้านมันไม่มี ครับ ไม่มีเลย ไม่มีสักขีด โทรหาหมาที่ไหนก็ไม่ได้
บางจุดอาจจะมีสัญญาณบ้าง แต่ก็แค่มีสัญญาณ พอโทรติดมันก็หลุด หมุนตัวนิดเดียวมันก็หลุด
ดูอนาจมากๆ ไม่อยากเชื่อว่าหมู่บ้านระดับของ L&H จะกันดารสัญญาณขนาดนี้
แต่ผมก็ไม่ใจเสีย เพราะเชื่อในความ “ใจดี” คิดว่าต้อง “ไม่มีเรื่องไหนเล็ก” สำหรับ DTAC
ยิ่งลูกค้าระดับ So Good Member จ่ายโทรเดือนละเฉียด 2 พัน มี CallCenter ส่วนตัว
เค้าต้องรับฟังความเดือดร้อนของผม และรีบมาแก้ไขให้ผมโดยเร็วแน่ๆ
แต่ก็อย่างที่โบราณว่าไว้ หวังอะไรไว้มาก ก็มักจะผิดหวัง
สิ่งที่ผมได้รับจากเจ้าหน้าที่ Call Center คือการรับปากว่าจะดูแลให้
และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายเครือข่ายโทรมาถามว่าสัญญาณดีขึ้นยัง โดยที่ไม่มีใครเข้ามาดู
จากนั้นสิ้นเดือน DTAC ก็ช่วยลดค่าโทรให้ผม “50 บาท” เพื่อขออภัย
แน่นอนว่าเงิน 50 บาท มันเทียบอะไรไม่ได้กับการติดต่อไม่ได้ในเวลากลับมาถึงบ้าน
ผมตัดสินใจดทรหา CallCenter อีกครั้ง พร้อมงัดไม้ตายที่มักจะได้ผลเสมอเวลาคุยกับ AIS
นั่นคือการขู่ว่าจะปิดเบอร์
ผลที่ได้รับก็คือ อีน้อง Call Center โอนไปฝ่ายปิดบริการให้ทันที
และเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการก็กุลีกุจอจะปิดสัญญาณให้ทันที โดยไม่เหนี่ยวรั้งอะไรทั้งสิ้น
WTF!!! นี่มันการตลาดบ้านไหนกัน ลูกค้าระดับ B+ อยากเลิกบริการ
แทนที่จะถามว่าทำไม? เพราะอะไร? อยู่ต่อได้ไหม?
นี่กลับอยากถีบหัวส่งทันที
แน่นอนว่าผมไม่ปิดเบอร์หรอก เพราะต้องใช้เบอร์ติดต่อกับชาวบ้านร้านตลาด
เลยต้องจำใจง้อ DTAC และขอใช้บริการต่อออย่างเจียมตัว
วันนี้ผ่านไปเกือบ 1 ปี สัญญาณในบ้านผมยังเป็นแบบนี้
แต่แค่ยื่นมือถือออกมานอกประตูบ้าน
กับการร้องเรียนอีกหลายครั้งจากเพื่อนบ้าน
ที่เริ่มเข้าอยู่อาศัยจนเกือบเต็มโครงการ 200 หลังคาเรือน
สิ่งที่เราได้รับก็มีแต่คำว่า
“พวกเค้าไม่ได้นิ่งนอนใจ ในความเดือดร้อนของลูกค้า และจะแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด”
ผมก็ได้แต่หวังว่า เมื่อสามารถย้ายค่ายโดยไม่ต้องเปลี่ยนเบอร์ได้เมื่อไหร่
ผมจะได้เป็น “ไท” เสียที
 |
| From Hate DTAC |
 |
| From Hate DTAC |
ที่เริ่มเข้าอยู่อาศัยจนเกือบเต็มโครงการ 200 หลังคาเรือน
สิ่งที่เราได้รับก็มีแต่คำว่า
“พวกเค้าไม่ได้นิ่งนอนใจ ในความเดือดร้อนของลูกค้า และจะแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด”
ผมก็ได้แต่หวังว่า เมื่อสามารถย้ายค่ายโดยไม่ต้องเปลี่ยนเบอร์ได้เมื่อไหร่
ผมจะได้เป็น “ไท” เสียที
เหมือนกันเลยครับ แต่บ้านผม 15 นาทีถึงสยาม -*-