ผมสงสารคุณอภิสิทธิ์

วันนี้ถ้าจะบอกว่าสงสารใครที่สุดในประเทศไทย ผมขอบอกว่า


“ผมสงสารคุณอภิสิทธิ์”
โดยส่วนตัวนะครับ ก่อนเกิดการบอยคอตการเลืองตั้งเมื่อปี 49 ผมขอบอกว่าผมชื่นชอบคุณอภิสิทธิ์พอสมควร
ท่ามกลางนักการเมืองรุ่นใหม่ๆทั้งหมด ผมว่าแกเป็นคนที่ฝากความหวังได้
ภาพของคุณอภิสิทธิ์ดีมาก ทั้งชาติตระกูล การศึกษา ฐานะ รูปลักษณ์ภายนอก
ผมว่าคุณอภิสิทธิ์เปลี่ยนพรรคประชาธิปัตย์จากพรรคทนายเก่าแก่คร่ำครึ มาเป็นพรรคที่เหมือนจะตามโลกบ้าง
และผมเชื่อว่า หากบ้านเมืองเราอยู่ในภาวะปกติ ประเทศเราจะโชคดีอย่างที่ผู้ใหญ่ในบ้านนี้พูดว่า
“ประเทศไทยโชคดีมาก ที่มีนายกฯชื่ออภิสิทธิ์”
เพราะคุณอภิสิทธิ์เหมาะมากที่จะเป็นนายกฯเพื่อพัฒนาประเทศ
เพราะท่านมีความคิดที่ดีหลายอย่าง
การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงประเทศให้ดีขึ้นนั้น จะเหมาะกับคุณอภิสิทธิ์มาก
และงานพวกนี้จะไม่ถูกฉุดรั้งจากจุดอ่อนเรื่องประสบการณ์การบริหารงานนัก
(ถึงมีจริงผมว่าคนรายรอบท่านก็ช่วยแก้ไขได้)
เพราะต้องยอมรับกันจริงๆเลยว่า นอกจากเป็นนักการเมืองกับเป็นอาจารย์
คุณอภิสิทธิ์ยังไม่เคยบริหารงานองค์กรใหญ่
ยังไม่เคยต้องเป็นคนสานผลประโยชน์ให้คนทั้งหมดแต่อย่างใด
แม้แต่ทุกวันนี้ การประสานงานต่างๆ คุณอภิสิทธิ์ก็ไม่สามารถทำเองได้
จนต้องพึ่งคุณสุเทพในการทำเรื่องเหล่านี้ให้
เป็นเหตุให้หลายคนแซวกึ่งกระแหนะกระแหนว่า
ใครกันแน่เป็นายกฯ เพราะเห็นคุณสุเทพต้องออกหน้าอยู่เป็นประจำ
แต่กับประเทศไทยขณะนี้ ผมถือว่าเป็นความโชคร้ายของคุณอภิสิทธิ์อย่างมาก ที่ต้องมาเป็นนายกฯท่ามกลางความขัดแย้งของประเทศแบบนี้ ความขัดแย้งที่หลายคนบอกว่า เป็นความขัดแย้งที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่จำความได้
วันแรกที่ขึ้นมารับตำแหน่ง สิ่งที่คุณอภิสิทธิ์บอกคือ
ท่านพยายามจะเป็นนายกฯของคนไทยทุกคน
จะรับฟังทุกความเห็นของคนไทยทั้งหมด
เพื่อเอามาคิดตัดสินใจ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องดีมากที่คนเป็นผู้นำจะทำ
แต่เป็นเรื่องยากมากในบ้านเมืองเราในยุคนี้
ยุคที่ใครก็สามารถตะโกนดังๆออกมาได้ผ่าน facebook ผ่าน tiwtter ผ่าน internet
ยุคที่เราแยกยากมากว่าความเห็นนั้นมาจากคนคนเดียวหรือคนล้านคน หรือคนทั้งประเทศ
ยุคที่เราสามารถสร้างกลุ่มการเมืองออกมาได้เป็นร้อยเป็นพัน และแยกออกยากมากว่าแต่ละกลุ่มมีใครผสมปนเปกัน
ยากจริงๆนะครับ กับการพยายามจะฟังคนทั้งหมด
และยากมากนะครับที่จะทำให้ทุกคนถูกใจได้
และยากโคตรๆเลยนะครับ กับการที่จะเลือกเชื่อว่าจะฟังใครและไม่ฟังใคร
แยกแยะอย่างไรว่าที่ใครต่อใครบอกเรานั้น เค้าหวังดี หวังร้าย หวังอะไรบ้าง
และคุณอภิสิทธิ์คงทราบแล้วว่าการเป็นนายกรัฐมนตรี
ยากกว่าการเป็นผู้นำฝ่ายค้านเป็นล้านเท่าพันทวี
มีใครจะรู้บ้างว่าจะแก้ปัญหาความขัดแย้งนี้ยังไง
เลือกยุบสภาตามที่ฝ่ายหนึ่งร้องขอ ก็ไม่มีอะไรรับรองจริงๆว่าความสงบจะกลับ
เพราะผมเชื่อว่าถ้าฝ่ายค้านตอนนี้พลิกมาเป็นรัฐบาล คนเสื้อเหลืองคงออกมาประท้วงกันอีกรอบ
เลือกสลายการชุมนุมตามที่ฝ่ายขาลุยพยายามคะยั้นคะยออยู่ตอนนี้
ไม่มีทางรู้เลยว่าหลังจากวันที่เริ่มสลาย ประเทศไทยจะกลายร่างเป็นแบบไหน
เป็นแบบอิรักที่เกิดสงครามกองโจร มีวางระเบิด มีคาร์บอมอยู่ทุกวี่วัน
หรือจะมีศพคนตาย เต็มแยกราชประสงค์
แล้วรัฐบาลจะอยู่ได้ยังไง และจะหาความสงบมาจากไหน
ถ้าเป็นผมเป็นคุณอภิสิทธิ์ คนที่ผมสงสารที่สุดคงเป็น
ครอบครัว ภรรยาและลูกจะอยู่ยังไง ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
การที่ต้องมาเห็นลูกเมียกลับไปนอนบ้านไม่ได้ ใช้ชีวิตปกติไม่ได้
สำหรับคนเป็นหัวหน้าครอบครัว มันเศร้ามากนะครับ
ยิ่งเฉพาะว่า มันมีสาเหตุมาจากเรา
ผมคิดว่าวันนี้คุณอภิสิทธิ์คงมีสักบางเวลาของแต่ละวัน
ที่คิดถึงตอนที่สามารถเดินไปไหนก็ได้ในเมืองไทย
มีเวลาว่างตอนบ่ายๆเย็น รดน้ำต้นไม้ ทำกิจกรรมเหมือนที่คนปกติทั่วไปเค้าทำกัน
ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ตอนนี้ คุณอภิสิทธิ์คงนึกไม่ออกเลยว่า
ภาพอย่างนั้นจะกลับมาเมื่อไหร่ และกลับมาได้ยังไง

2 thoughts on “ผมสงสารคุณอภิสิทธิ์

  1. ผมสงสารลูกเมียแกมากกว่านะ คือคุยกับแท็กซี่แล้ว มีคนอาฆาตอภิสิทธิ์เยอะมาก หมดอำนาจแล้วจะอยู่เมืองไทยยังไงหว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *