ก่อนเขียน blog นี้ ตั้งใจและเตรียมใจแล้วว่าจะโดนด่า โดนเหมารวมว่าเป็น “แดง”
ท่ามกลางกระแสไม่เอาแดงแบบเนียนๆ ที่เรียกว่า #WeLoveThai
แน่นอนว่าผมเห็นด้วยกับหลายคนที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการรณรงค์เรื่องนี้ (พี่@iWhale เป็นตัวอย่างที่ผมชื่นชม)
แต่มันก็เหมือนกับกระแส pop ทั่วๆไป ที่เมื่ออะไรก็ตามเริ่มจะติดลมขึ้นมา
จะมีพวก “กระแดะ” ตามแห่มาแหย่เท้าร่วมด้วยทันที
ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึงภาพไฮโซกระแดะใส่เสื้อ Save The World มาเดินห้าง
แล้วสั่งคนขับรถติดเครื่องเปิดแอร์เย็นฉ่ำรอนายกลับมาจากออกงาน “ช่วยโลกร้อน” ก็ได้
ซึ่งตัวผมเองรังเกียจคนพวกนี้อย่างมาก พอๆกับที่ Kurt Cobain ที่รังเกียจแฟนเพลงตามแห่จอมปลอม เลยตัดสินใจเอาลูกปืนกรอกปากตัวเองซะดีกว่า สิ้นเรื่องสิ้นราวไป
วันนี้เราจะเห็นกระแสที่พยายามปั่นกันมากแบบหวาดผวาว่า แดงจะเผาบ้านเผาเมืองและพวกเราควรช่วยกันต่อต้านความรุนแรงนี้ให้สุดลิ่มทิ่มประตู แล้วคนชั้นกลางผู้ห่วงใยความสงบสุขของตัวเองยิ่งชีพก็ออกมาคิดแคมเปญต่อต้านความรุนแรงต่างๆนาๆ ที่สะท้อนความกระแดะเป็นตัวของตัวเองได้เป็นอย่างดี ซึ่งการชวนคนกดแตร 1 นาทีหลังเคารพธงชาติ เป็นข้อชักชวนที่ปัญญาอ่อนที่สุดที่ผมเห็นมาในรอบหลายปี
คำถามผมคือ
วันที่พันธมิตรยึกทำเนียบ หลายคนไปอยู่ไหน ทำไมไม่มีใครต้านความรุนแรงมั่ง (เพราะเค้าชุมนุมโดยสันตินะสิ)
แค่ข่าวแดงบอกจะเอาปลาร้า เอาอึมาปากลายเป็นทำไมมองเป็นเรื่องรุนแรง (แต่ไม้กล์อฟ ระเบิดปิงปอง ปึนพก มีไว้ป้องกันตัวไม่ใช่อาวุธ)
แดงจะสามารถขนน้ำมันล้านลิตรมาได้ไง? (มันสามารถเอาไปเติมรถๆได้ 40,0000 คันเลยนะ ที่ไหนจะสำรองน้ำมันเยอะขนาดนั้น)
ปิดอนุสาวรีย์ชัยฯ รุนแรงกว่าปิดสนามบินตรงไหน? (ทำไมพันธมิตรมาปิดสยามกลับบอกว่าให้ทนเพื่อชาติ)
ผมว่าเรื่องเหล่านี้ล่ะที่เป็นปมในใจคนเสื้อแดงที่
“ทำไมทีมึงทำได้ ทำไมทีกู(ที่ยังไม่ได้ทำ)บอกว่าทำไม่ได้มัน “รุนแรง“”
“ทำไมกูบอกว่ามาชุมนุมโดยสันติ แต่ทุกคนก็พาลบอกว่ากูจะเผาบ้านเผาเมือง ไม่เชื่อกันเลย”
เป็นผม ผมก็น้อยใจนะ
ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหานี้หมดไป ไม่ให้ต่อไปใครก็จะเอาข้อนี้มาอ้างได้ว่า ทำไมมันทำได้ กูทำไม่ได้อีก
ผมเลยอยากเสนอว่า เราต่างหากที่ควรจะบอก “แดง” ว่า
“เพื่อนเอ๋ย เชิญยึดทำเนียบเถอะ ให้สาแกใจเธอ
เชิญยกพลไปปิดสนามบินเถอะ ให้สมใจเธอ
ทำทั้งหมดที่เธอน้อยใจว่า ทำไมเค้าทำได้เธอทำไม่ได้เถอะ
แล้วเราค่อยมานั่งคุยกัน“
จากนั้นเราก็ตั้งข้อหาแดงว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย” เหมือนที่ทำกับพันธมิตร
แล้วก็ปล่อยให้แดงบอกว่า ข้อหามันรุนแรงเกินไป “ไม่ขอมามอบตัว และห้ามออกหมายจับ”
เมื่อเราไปถึงวันนั้นเมื่อไหร่ ต่อไปบ้านเมืองเราก็จะกลับสู่ยุคแห่งความเสมอภาค ไม่มีใครมาอ้างอะไรได้อีก
เราสามารถย้อนเกร็ดคนทุกคนได้ว่า อ้าว.. คราวที่แล้วก็ยอมให้พวกท่านทำแล้วไง จะบ่นอะไรอีก
แล้วความชอบธรรมก็จะบังเกิดแก่ชาวไทยทั้งผอง
ในเมื่อเราไม่ยอมทนให้ประชาธิปไตยแก้ปัญหามันเอง แต่พร้อมจะ reset อยู่ร่ำไป
ผมว่าวันนี่สังคมไทยน่าจะถึงเวลาแล้วที่จะยอมฉิบหายกับความไม่อดทนของตัวเอง
แล้วคนชั้นกลางก็จะชอบธรรมที่จะเป็นตัวของตัวเอง เพราะวันนั้นก็อ้างได้ว่า
“ฉันก็ยอมประสบเคราะห์กรรมไปกับเธอแล้วไง จะเอาอะไรอีก“
ข้อมูลพื้นฐาน สถิติประเทศไทย ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินรวมแก๊ซโซฮอล์เฉลี่ย 21.1 ล้านลิตรต่อวัน ดีเซลเฉลี่ย 54.9 ล้านลิตรต่อวันนะครับ ตอนตรุษจีนการใช้เพิ่มขึ้นจากเดิมแค่ดีเซลอย่างเดียวก็เกิน 4 ล้านลิตรต่อวันแล้วครับ
คนกลุ่มนึงทำเลว ฝั่งตรงข้ามทำเลวตอบ เพื่อความเท่าเทียม? คนอื่นที่ไม่เกี่ยวได้รับความเดือดร้อนจากทั้งฝ่าย
ก็ต้องทนรับเคราะห์ไปจนกว่าทั้งสองฝั่งจะคิดว่า ทำเลวเท่ากันแล้ว
ขอบคุณครับ สำหรับความเห็น