มาตามกระแสโอบามาด้วยคน เรื่อง “เปลี่ยน” เนี่ย
พอดีปีนี้ผมพยายามเปลี่ยนขั้นตอนและกระบวนการทำงานของบริษัทอยู่ครับ เป็นการทดลองเปลี่ยนเอง พยายามผลักดันเองโดยที่องค์กรทั้งองค์กรยังไม่ได้ไปด้วย
เรียกว่าเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันว่างั้นเถอะ
ตอนนี้โปรเจคก็อยู่ในระหว่างการทำงานอยู่ ซึ่งอีกสัก 2-3 เดือนถึงจะสามารถสรุปผลได้ว่ามันได้เสียงสะท้อนจากน้องๆที่เป็นคนทำงานตามกระบวนการที่ผมคิดขึ้นมาว่ายังไงบ้าง
แต่จากการเฝ้าดูและลงมือทำมา 6 เดือน สามารถบอกได้เลยว่าเหนื่อยชิบหาย ที่ว่าเหนื่อยเนี่ยไม่ได้เหนื่อยเพราะงานหนัก ซึ่งไอ้เรื่องงานหนักเนี่ย ผมเตรียมใจไว้อยู่แล้ว แต่ที่เหนื่อยมากๆคือการที่ต้องมาเจอทั้งแรงเฉื่อยและแรงต้านจากน้องๆและคนรอบข้างในทีม
เหนื่อยกายไม่เท่าไหร่ แต่เหนื่อยใจเนี่ย ทำเอาท้อเข้าหลายยก
ถ้าให้สรุปตอนนี้คร่าวๆ สาเหตุหลักเลยมาจาก ผมทำงานด้านมวลชนน้อยเกินไป เพราะการจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงอะไรนั้น คนทั่วไปจะเต็มใจเปลี่ยนก็ต่อเมื่อเขามีความคิดว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันแย่ มันห่วยและเขาไม่อยากอยู่ในภาวะแบบนี้อีกแล้ว
ซึ่งการจะสร้างความรู้สึกร่วมแบบนั้น คนที่จะเปลี่ยน จะต้องเข้าหามวลชนเพื่อสร้างความเข้าใจและสร้างแนวร่วมในการเปลี่ยนแปลงอย่างน้อยคือ ถึงไม่ได้แรงเสริมก็ควรจะลดแรงต้านออกไปให้ได้มากที่สุด
แต่งานนี้ผมแทบไม่มีแรงเสริมเลย มีแต่แรงต้านและแรงเฉื่อยเต็มไปหมด ถามว่าทุกคนไม่พอใจกับกระบวนการทำงานแบบเดิมๆไหม ผมตอบได้เลยว่าไม่ ไม่ได้ไม่ชอบถึงขนาดว่าต้องเปลี่ยน ทุกคนแค่รู้สึกว่ามันทำให้งานออกมาไม่ค่อยดี แต่ทุกคนไม่ได้คิดว่ามันเป็นที่กระบวนการทำงาน แถมหลายคนที่คล่องตัวกับกระบวนการแบบเดิมอยู่แล้วนั้นกลับคิดว่า แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว จะเปลี่ยนไปทำไม หรือว่า “ทำไมฉันต้องไปเรียนรู้อะไรใหม่ ทำไมต้องมาเหนื่อยกับเรื่องที่ไม่อยากทำ”
พอตอนมันจบแล้วคงสามารถสรุปอะไรหลายๆอย่างได้
แต่.. วันนี้คิดได้เท่านี้ ว่างานนี้ไม่น่าจะได้อย่างใจเพราะอะไร
เหลือสุดท้ายต้องไปวัดดวงว่า ข้อดีอื่นๆของวิธีนี้นั้นมันจะเป็นข้อดีจริงหรือไม่
หรือสุดท้ายมันก็ไม่ได้อะไรเลย แล้วทุกคนคงงอแงขอกลับไปทำงานตามกระบวนการเดิม
ถ้ามีใครอ่านมาถึงตอนนี้แล้วสงสัยว่ามันคืออะไร
มันคือการที่ผมพยายามเปลี่ยนกระบวนการพัฒนาซอฟแวร์ของบริษัทจาก Event-Driven Development (การ Design Software และพัฒนา Software ตามแบบ VB6)
มาเป็น Model-Driven Development by UML ด้วย OOD และ OOP (นี่ขนาดยังไม่ได้ทำ OOA เลยนะเนี่ย)
เศร้าไหมครับ