ผมใช้ MacBook มา 18 เดือนแล้วครับ และคิดว่ามันน่าจะนานพอที่จะเอามาสรุปเป็นข้อมูลอ้างอิงได้
ด้วยเหตุผลของการอยากทำ Blog แบบจริงจังสักเรื่อง

ก่อนจะเริ่มอะไรก็มาแนะนำตัวผมก่อนว่าทำงานอะไร เพื่อเป็นข้อมูลให้เข้าใจว่าทำไมผมเลือกมาซื้อ MacBook

Background

1. ผมมีอาชีพอยู่ในวงการ Software ครับ โดยหน้าที่เป็น Project Leader ในบริษัท
2. ลักษณะงานที่ทำคือ
2.1 ทำ Schedule
2.2 ตรวจเอกสาร
2.3 ทำเอกสารรายงานต่างๆ
2.4 ตรวจ Source Code ซึ่งส่วนใหญ่เป็น .NET
2.5 ทำงานกับ Database ของ ORACLE และ MS SQL Server
3. นอกจากเรื่องงาน ผมใช้ Computer เพื่อ
3.1 เล่นเกมส์ ซึ่งหลักๆคือ Football Manager
3.2 แต่งภาพ ที่ถ่ายมา เพราะผมชอบถ่ายรูป ซึ่งโปรแกรมที่ใช้คือ Photoshop ไม่สนใจโปรแกรมอื่นมากนักถ้ามันไม่ดีจริง

จากเดิมผมใช้ Notebook อยู่แล้วครับเป็น IBM ThinkPad R40e Centrino 1.3 GHz RAM 512MB และ HDD 60GB
ซึ่งอายุการใช้งานตอนนั้นคือ 3 ปี แล้วก็ยังใช้งานได้ดีอยู่ ไม่มีปัญหาอะไร

สาเหตุที่อยากเปลี่ยนเครื่อง

1. อยากได้จอแบบ Glossy เพราะจอ LCD แบบเก่ามันจะแสดงสีเพี้ยนเวลาที่แต่งรูปและค่อนข้างสว่างน้อย
2. ตอนนั้นสามารถขายเครื่องเดิมได้ในราคา 15,000 บาท ทำให้สามารถซื้อเครื่องใหม่ได้ในราคา x-15,000 บาท ซึ่งถ้าไม่ขายก็ขาดทุนค่าเสียโอกาส

เมื่อคำนวนนั่นนี่แล้วเลยตัดสินใจซื้อเครื่องใหม่ดีกว่า โดยการซื้อเครื่องใหม่มี Spec คร่าวๆว่าต้องเป็น Core Duo, จอ Glossy เขียน CD-ROM ได้ก็พอ ส่วน DVD-Writer ไม่ต้องการนักเพราะ CD-ROM ยังนานๆเขียนที

ที่สำคัญที่เป็นตัวเร่งปฏิกริยาคือ Mac OS X with Boot Camp!!! ทำให้เครื่อง Mac สามารถลง Windows ได้

ความเห็นหลังจากใช้ MacBook มา 18 เดือน

ด่าน Hardware

– ความเสถียร: ความเข้ากันได้ของ Hardware และความเสถียรอยู่ในเกณท์ที่ดีมากครับ เมื่อลง Windows XP ผ่าน Boot Camp 2.0 พบว่าใช้แทบไม่เคยเจอ BOD เลย ทุกอย่าง Smooth สุดๆ เพียงแต่จำกัดว่าต้องใช้ Driver ที่มากับ Boot Camp เท่านั้น อย่าริอ่านไปอัพเดท Driver ใหม่เองเด็ดขาด แม้มันจะมาจากผู้ผลิตเองก็ตาม ฮ่าๆๆ

เกรด : A

– ความสวยงาน : ไม่มีข้อโต้แย้งเรื่องความสวยงาม MacBook ออกแบบมาได้โดนใจทุกคนมากๆ ไม่ว่าจะเป็นความขาวใส ความน่าถนุถนอม ผมว่ามันเป็นโน้ตบุคที่ออกแบบได้ลงตัวมากที่สุดรุ่นหนึ่ง

เกรด : A

– ความสะดวกในการใช้งาน : MacBook ถูกออกแบบมาให้ไม่มีสายต่อระโยงระยางด้านหลัง ทำให้ทุกอย่างถูกต่อเข้าด้านข้างของตัวเครื่องฝั่งซ้ายหมด จะดีก็ได้ จะไม่ชอบก็ได้ สำหรับผมอยู่กลาง แต่สิ่งที่ผมชอบมากๆคือ TouchPad สามารถใช้ 2 นิ้ว Scroll ได้ ถึงจะใช้ได้ไม่สะดวกเท่า Point Stick ของ IBM แต่ผมว่ามันดีกว่า Notebook ทั่วไปพอสมควร

เกรด : B-

– ความทนทาน : ถ้าเราคิดว่า Hardware ของ Acer นี่แย่สุดแล้วในด้านความทนทานและอายุการใช้งาน ผมขอบอกว่า MacBook แย่ยิ่งกว่านั้น ผมใช้งานมา 18 เดือนเรียกว่า เสียไปแทบจะทุกส่วน เริ่มตั้งแต่ Combo Drive อ่านแผ่นไม่ได้ เขียนแผ่นไม่ได้ เคสร้าว ทั้งตรงที่วางมือ ทั้งตัวเคสรอบนอก จอกระพริบ แบตเสื่อมเร็วมาก แถมใช้งานได้น้อย ถ้าเทียบกับ IBM ที่ผมใช้มา 3 ปีแล้วล่ะก็ เจ้านี่ห่วยมากๆ สู้กับ Acer ได้สบายๆ

เกรด : D+

ด้าน Software

ไม่ต้องโต้เถียงเลยว่า Mac OS X เป็น OS ที่ดีกว่า Windows พอสมควรแต่ดีกว่ากันถึงขั้นฟ้ากับเหวอย่างที่ชาว Mac ชอบเอามายกข่มอยู่เสมอหรือไม่นั้น ผมกลับไม่คิดว่ามันขนาดนั้น ถ้าแยก Mac OS X ออกเป็น 2 รุ่นคือ Tiger (10.4.x) และ Leopard (10.5.2) เราจะพบว่ามีความแตกต่างในรายละเอียดอยู่บ้างพอสมตวร

– ความเสถียร : ต้องบอกว่า Tiger ดีกว่า Windows XP ประมาณนึง ขึ้นอยู่กับว่าคุณเทียบกับ XP ที่ไหน ถ้าเป็นเครื่องประกอบเองแบบที่ใช้ Hardware ห่วยๆ ก็ถือว่าห่างกันมาก แต่ผมเทียบเป็น Windows XP บน Boot Camp 2.0 ผมว่าไม่ต่างกันมากนัก แต่ถ้าเทียบกับ Leopard ผมว่า Windows XP ดีกว่านิดๆด้วยซ่ำ แต่อย่าเอามาเทียบกับ Vista นะ อันนั้นน่ะ ฟ้ากับเหวของจริง

เกรด : A (Tiger) B- (Leopard)

– ความง่ายในการใช้งาน : เทพเจ้าของการออกแบบ Interface คือ Apple อย่างแท้จริง สำหรับ Application บน Mac OS X นั้น มัน Just Work จริงๆครับ โปรแกรมส่วนใหญ่ใช้งานง่าย ออกแบบไม่สับสน แถมยังสวยงาม ขนบวิธีคิดก็ต่างจาก Windows Environment พอสมควร ผมว่าใครอยากเรียนเรื่องออกแบบ UI ดีๆนี่ ต้องมาหัดใช้ Mac ครับ แล้วจะรู้ว่าการออกแบบดีๆมันเป็นยังไง

แต่ในบางเรื่อง Windows กับทำได้ดีกว่ามากๆ ซึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดคือ File Browsing ของ Windows (Windows Explorer) นั้นน่าจะเป็นตัวที่ดีที่สุดอย่างที่ไม่สามารถหาคนมาโค่นได้ แม้จะเทียบกับ Finder ของ Mac OS X แล้ว ก็ยังห่างชั้นกันพอสมควรเลย

เกรด: A-

– ความสวยงาม : เคยเห็นหรือเคยเปลี่ยน Theme ของ Windows XP ให้เป็นเหมือน Mac OS X มั้ยครับ เคยใช่มั้ยครับ แต่ Mac OS X ไม่มีใครอยากเปลี่ยน Interface ให้เหมือน Windows หรือ OS อื่นๆนะครับ คำตอบน่าจะชัดเจนแล้วมั้ง

เกรด: A

สรุป

เครื่อง ​MacBook เป็นเครื่องที่สวยและน่าใช้งานตามไสดล์ลูกคุณหนูไฮโซ ซึ่งแน่นอนก็ย่อมต้องได้รับการดูแลอย่างดีและไม่ค่อยทนมือทนเท้าเท่าไหร่ แต่สิ่งที่มาชดเชยได้อย่างมากคือ Mac OS X ซึ่งถือทำให้ลูกคุณหนูคนนี้มีความคิดความอ่านที่น่าสนใจและน่าทึ่ง ถึงขนาดที่ผมยังไม่อยากกลับไปใช้ Windows เลยด้วยซ้ำ

ถ้าอีก 18 เดือนข้างหน้าต้องเปลี่ยนเครื่อง ผมคงซื้อเครื่องของ Apple เหมือนเดิม แต่จะเอารุ่นที่มันเป็นอลูมิเนียมเคสล่ะนะ ฮ่าๆๆ