เปลี่ยนเครื่องในรอบ 2 ปี และเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปีที่กลับมาใช้ Mac หลังจากเครื่องก่อนหน้านี้คือ Mac Mini Late 2012 ที่ผ่านมา 7 ปีแล้วก็พบว่ามันยังใช้งานได้ดีอยู่ แล้วก็ยังไม่พัง ในขณะที่เราเปลี่ยน PC ไป 3-4 เครื่องแล้ว แต่เจ้า Mac Mini มันยังอยู่ดี แสดงถึงความทนทานได้อ่ะนะ
ทำไมเป็น Mac
ก่อนหน้านี้เป็นคนที่อิงแอบกับ PC มากนะ เพราะว่าแต่ก่อนทำงานสาย IT ที่มีภาพในใจเสมอว่าเครื่องที่ใช้ ต้องสามารถเขียนโปรแกรมได้ แต่หลังจาก 3-4 ปีที่ผ่านมาได้ย้ายตัวเองจากคนไอที มาเป็นคนสายธุรกิจเต็มตัว (วัดได้จากการอุทานว่า “ไอทีแม่ง…” ฮา) ตอนนี้งานหลักของเราเลยเป็นการ ทำ Model บน Excel, เก็บข้อมูลบน Excel, เขียนแผนการทำงานบน Powerpoint แล้วก็ใช้พวก Collaboration Tools เช่น MS Teams, Outlook ซะเป็นส่วนใหญ่ เลยคิดว่า เออ…ไม่ต้องเขียนโปรแกรมแล้วล่ะ แค่หาข้อมูล ทำ Model ใช้อะไรก็ได้มั้ง พอคำว่าใช้อะไรก็ได้มั้ง เลยคิดว่ากลับมา Mac ดีกว่านะ
แถมที่บอกก่อนหน้านี้ว่าใช้ Mac Mini มา 7 ปี เลยประทับใจในความทนทานมาก แต่ก็หวั่นใจเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้ก็ใช้ Macbook White สมัยแรกๆ ที่เครื่องกรอบเป็นข้าวเกรียบ จอก็เหลือง แต่พอเหมือนมันเปลี่ยนเครื่องอลูฯ ก็เหมือนทุกอย่างจะดีขึ้น
เข้าเรื่อง
เราซื้อ Macbook Air 2020 มา แบบว่าเล็งตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัวว่า “นี่ล่ะ Macbook ที่ฉันรอมานาน” เหตุผลเพราะอะไรน่ะเหรอ
- ถูก คือสามารถซื้อ Macbook ได้ในราคาต่ำกว่า 30,000 บาทในปีพ.ศ.นี้ได้นี่ถือว่าถูกแล้วนะ (ซื้อราคานิสิต โดยใช้สิทธิ์ของภรรยา)
- ได้สเปคล่าสุด ไม่มีบ่อยครั้งในรอบสิบปีที่แมครุ่นใหม่ ใช้ CPU ที่เพิ่งเปิดตัว (ปกติขายแต่ของตกรุ่นกว่าชาวบ้านอย่างน้อยปีนึง) ใส่ SSD มาให้ในขนาดที่ใช้ทำงานจริงๆได้สักที นั่นคือให้มา 256GB เลย ไม่ใช่ให้มา 128 แบบง่อยๆที่ใช้แป๊บเดียวก็เต็มล่ะ แรม DDR4, Ratina Display ต่อได้ 2จอ
- เลิกใช้ Butterfly Keyboard ที่มีปัญหาซ้ำซากสักที
- มี CPU Quad-Core สักที เพราะรุ่นก่อนหน้านี้มีแค่ dual-core ที่ต่อให้เร็วยังไง quad-core ก็เร็วกว่า 2 เท่าอยู่ดี
เรื่องที่ชอบ
- จอดี สวยงามตามท้องเรื่อง คือปกติชอบ Tone สีของจอ Apple อยู่แล้ว เลยสบายใจดี ทั้งบนมือถือ บนคอม บน iPad เหมือนกันหมด อันนี้ชอบ
- คีย์บอร์ด พิมพ์นิ่มดี แม้จะไม่ดีเท่ารุ่นเก่า แต่ก็ถือว่าดีนะ ดีกว่าของ PC พอสมควร
- เร็วใช้ได้ คือเทียบกับ Mac Mini เก่าของตัวเอง ก็คิดว่าเร็วกว่าตัวนั้นก็โอเคแล้วนะ ซึ่งนี่ก็โอเคดี เปิดไฟล์รวดเร็วปรู้ดปร้าด (นี่พูดถึงไฟล์ MS Office เฉยๆนะ)
- วัสดุหรูหราตามมาตรฐาน จับแล้วรู้สึกถึงความหรูหราในงานประกอบ ไม่กิ๊กก๊อกไก่กาเหมือน PC
- Trackpad ดีมากกก ดีแบบที่ฝั่ง PC ยังตามไม่ทัน ใช้แทนเมาส์ได้เลย ชอบๆ
เรื่องที่ไม่ชอบ
- คีย์บอร์ดไทย คือมันสลับเอาภาษาไทยวางก่อน ภาษาอังกษ ซึ่งมันไม่เหมือนชาวโลกอ่ะ คนอื่นเค้าเอาภาษาอังกฤษขึ้นก่อน ทำให้ตาเรามองเห็นภาษาอังกฤษก่อน แต่นี่มันเอาภาษาไทยขึ้นก่อน ทำให้มองแวบแรกแล้วไม่เห็นภาษาอังกฤษ เลยจำแป้นไม่ได้ อันนี้ไม่รู้มาก่อน ถ้ารู้ว่ามันจะเป็นอย่างนี้เนี่ย ยอมสั่งรุ่นภาษาอังกฤษเพียวๆเลยดีกว่า เพราะตอนนี้พิมพ์แบบมึนหัวมาก จนต้องมาพิมพ์สัมผัสอย่างเดียว เพื่อกันความตาลาย
- หนัก คือรุ่นก่อนหน้านี้ เราใช้ Acer Swift5 ที่เบา 0.97kg นะ คือแทบจะเบาสุดในโลก แบบว่าใส่กระเป๋ายังเบาหวิวเลย ทีนี้ใครหนักกว่ามัน จะโดนเคลมว่าหนักตลอดล่ะ (รุ่นนั้นก็ดีมาก ปัจจุบันยกให้ภรรยาใช้ล่ะ) แต่ถ้าใครใช้ Notebook หนักสักโลกว่าๆ คงไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่แล้วล่ะนะ (ทั้งที่จริงๆ Macbook Air เบากว่า Macbook แค่ไม่ถึงขีดอ่ะ)
- พัดลมทำงานแปลกๆ เหมือนมันทำงานบ่อยๆ เกินเวลา
- USB Type-C แค่ 2 port อันนี้ค่อนข้างบ้าบอพอสมควร เพราะมันจำกัดการใช้งานมากๆ ถึงแม้ปกติจะไม่ได้ต่ออะไรมากมายนักแต่ การเสียบชาร์จโทรศัพท์ก็เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับเรา แล้วก็การต่อ Projector เวลา present งาน ซึ่งคงจบที่ docking หรือ USB Hub สถานเดียว
ถ้าคร่าวๆ ก็โดยรวม ชอบ คุ้มเงินที่ตัวเองจ่าย ถ้ามันสามารถใช้ได้ 3-5 ปีแบบ Mac Mini ที่ใช้อยู่ก็โอเคมาก เพราะอันนั้นคุ้มมาก จนภรรยาบอกตอนจะซื้อเครื่องใหม่ว่า ซื้อ Mac น่ะล่ะ
จบ